ร่ำรวยเกินสามชั่วคน
การสืบทอดเป็นทางเลือกที่จำเป็นในการพัฒนาอารยธรรม หากไม่มีการสืบทอดย่อมไม่มีการพัฒนาก้าวหน้าทางอารยธรรมของมนุษย์มาจวบจนทุกวันนี้
อันสังขารของมนุษย์เรานั้นย่อมเสื่อมถอยร่วงโรยตามกาลเวลา หากฐานรากธุรกิจที่จะยืนยาวต่อไปก็คือตัวองค์กร และหัวใจสำคัญที่ทำให้องค์กรอยู่ได้อย่างยั่งยืนก็คือผู้รับช่วง บทเรียนซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากประสบการณ์ทั้งในประวัติศาสตร์และในปัจจุบันได้บอกเหตุผลข้อหนึ่งคือ สำเร็จก็มาจากผู้รับช่วง ล้มเหลวก็มาจากผู้รับช่วง
ความยากลำบากของการฝึกฝนผู้รับช่วงธุรกิจในประเทศจีน นอกจากปัจจัยแวดล้อมภายนอกแล้ว ทัศนวิสัยภายในก็มีปัญหาเด่นชัดที่ต้องรีบทำการแก้ไขอยู่สองข้อ หนึ่งคือ “ไม่รู้รูปลักษณ์แท้จริงของเขาหลูซาน เพราะอาศัยอยู่กลางหุบเขาหลูซาน” นักธุรกิจไม่มีความคิดที่เป็นระบบเกี่ยวกับการพัฒนาธุรกิจในระยะยาว ดังนั้นการคัดเลือก การฝึกฝน และการใช้ประโยชน์จากผู้รับช่วง จึงยังขาดแบบแผน สองก็คือ “รู้แต่ไม่ทำ หรือทำแต่ไม่ทุ่มเท” นักธุรกิจไม่อาจหลุดพ้นจากพันธนาการทางวัฒนธรรมและความเคยชิน ดังนั้น การคัดเลือก การฝึกฝน และการใช้ประโยชน์จากผู้รับช่วง จึงยังขาดวิธีการ ความยืดหยุ่น และพลังในการปฏิบัติ
การฝึกฝนผู้รับช่วงเป็นปัญหาใหญ่ของการอยู่รอดและการสืบทอดขององค์กร ถึงแม้จะลงมือทั้งทางด้านวิธีการและการปฏิบัติ ปรึกษาหารือ จนได้วิธีปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพ แต่ด้วยลักษณะพิเศษของหลักเกณฑ์ทางสังคมอยู่ตรงที่ความหลากหลายและการเปิดกว้างยอมรับ วิธีการจึงไม่ใช่คำตอบหนึ่งเดียว ความสำเร็จต่างหากที่เป็นบทพิสูจน์สุดท้าย